แฟลชไดร์ฟถือเป็นอุปกรณ์อีเล็กโทรนิคที่สามารถใช้เก็บข้อมูลหรือไฟล์ต่างๆบนคอมพิวเตอร์อย่างอิสระ ด้วยความสะดวกและการใช้งานที่แสนง่ายทำให้มันกลายเป็นอุปกรณ์ที่เหล่าคนทำงานหสาย it พนักงงานออฟฟิส หรือแม้แต่นักเรียนนักศึกษา พกติดตัวกันวันอยู๋แทบจะทุกผู้ทุกคน ซึ่งมันจะทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำแบบแฟลชและสามารถเชื่อมต่อผ่านทางช่อง USB port ซึ่งถือว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ง่ายที่สุด แต่หากคุณเก็บข้อมูลเหล่านั้นงบนแฟลชไดร์ฟมากจนเกินไปอาจจะทำให้ความจุไม่เพียงพอแถมยังเต็มไปข้อมูลที่คุณไม่ต้องการใช้งาน ฉะนั้นเราจึงอยากจะแนะนำวิธีการในการฟอร์แมตแฟลชไดร์ฟที่ถูกต้องมาฝากกัน
ให้คุณเตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อยเพียงใช้คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องกับแฟลชไดร์ฟคู่ใจของคุณ เมื่อนำแฟลชไดร์ฟมาเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแบะตรวจพบไดรฟ์ของแฟลชไดร์ฟ ให้ทำการเข้าไปที่ My computer และคลิ๊กขวาที่ไดรฟ์ของแฟลชไดร์ฟ ซึ่งในแต่ละคอมพิวเตอร์จะปรากฏจำนวนของไดรฟ์ไม่เหมือนกันฉะนั้นต้องตรวจเช็คให้ดีว่าไดรฟ์นั้นเป็นไดรฟ์ของแฟลชไดร์ฟอย่างแท้จริง จากนั้นให้คลิ๊กขวาที่ไดรฟ์ดั่งกล่าวและเลือกที่เมนู Format.. จากนั้นจะพบกัยหน้าต่างใหม่ปรากฏขึ้นมาให้คุณตรวจสอบรายละเอียดต่างๆโดยสังเกตุที่ File System โดยปกติแล้วเราจะทำการตั้งค่าไว้ที่ FAT เป็นส่วนใหญ่เพราะฟอร์แมตนี้จะสามารถเขียนและอ่านได้อย่างสะดวกมากที่สุด จากนั้นให้กดเลือก Quick Format เพื่อช่วยให้การ Format เป็นไปได้ด้สนความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จากนั้นให้ทำการกด Start ระบบจะเริ่มทำการล้างข้อมูลต่างๆภายในแฟลชไดร์ฟจนหมด นอกจากนั้นยังมีวิธีการ Format แฟลชไดร์ฟอีกวิธีหนึ่งในกรณีที่แฟลชไดร์ฟเกิดติดไวรัสหรือไม่สามารถเชื่อมต่อและเปิดขึ้นได้ตามปกติ ให้คุณเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์ เข้าไปที่ Start menu เลือก run จากนั้นจะปรากฏแถบให้เราพิมคำว่า cmdกด Enter จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างสีดำของระบบ Dos ให้คุณพิมพ์ชื่อไดรฟ์ของคุณ เช่น หากไดรฟ์F คือไดรฟ์ของแฟลชไดร์ฟให้พิมพ์ว่า F:/fs:FAT32 จากนั้นกด Enter ระบบจะทำการถามอีกครั้งให้พิมพ์ y เพื่อตอบ Yes เพียงเท่านี้ระบบก็จะทำการ Format ให้โดยทันที
โดยปกติแล้วการ Format ภายในแฟลชไดร์ฟไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นที่เราจะต้องทำบ่อยครั้งนัก เพราะโดยปกติแล้วหากเรามีการใช้แฟลชไดร์ฟร่วมกับคอมพิวเตอร์เราจะสามารถทำการ Scan Disk เพื่อช่วยดูแลความเรียบร้อยของตัวเก็บข้อมูลให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ยิ่งหากใครได้ทำการแสกนเพื่อทำการค้นหาและกำจัดไวรัสอันเป็นปัญหาหลักของแฟลชไดร์ฟก็จะยิ่งทำให้การใช้เป็นได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาในเรื่องของ ข้อมูลสูญหาย ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ หรือทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆเสียหาย ฉะนั้นการ Format จึงเป็นทางเลือกหลังๆเพื่อที่จะใช้เคลียร์ทรัพยกรณ์ ความจุ หรือความปลอดภัยของแฟลชไดร์ฟให้สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกตินั่นเอง
ที่มา: www.usb-perfect.com